เรื่องแปลกพิศวง เรื่องราวสุดเหลื่อเชื่อในโลกใบนี้

เรื่องแปลกพิศวง มนุษย์นั้นคือสิ่งมีชีวิต ที่นับได้ว่ามีจำนวน อยู่มากที่สุดในโลกนี้ แถมโลกของเรา ยังพัฒนาขึ้นไปไกลก็ตามที แต่รู้หรือไม่ว่า โลกของเรานั้น ก็ยังคงมีเรื่องของ สัตว์ลึกลับ ที่ยังคงได้อาศัย อยู่ที่โลกใบนี้ ตามที่ห่างไกลจากมนุษย์ ซึ่งบางทีนั้นเรา ไม่อาจที่จะทำการพิสูจน์ กับเรื่องของตัวตน ของสัตว์ประหลาดพวกนี้นี้

ในบทความคนั้งนี้ ทางเราเลยมาเปิดเรื่องกับ ตำนานสัตว์ลึกลับในโลก มาดูกันครับว่า เรื่องพิศวงของ เหล่าสัตว์ลึกลับพวกนี้ มีตัวอะไรอยู่บ้าง แล้วไปซ่อนตัวที่แห่งใด ในโลกของเราใบนี้ เรื่อพิศวงเกี่ยวกับสัตว์เหล่านี้ ได้มีผู้พบเห็น แบ้วได้ทำการบันทึก ตามมาพิสูจน์ดูกันครับ ลักษณะของพวกสัตว์ลึกลับนี้ น่าสนใจมากจริง ๆ

เรื่องแปลกพิศวง ตามล่าสัตว์ลึกลับ ว่าเรื่องเล่าของพวกมันนั้น เป็นอย่างไรบ้าง ?

ไปดูกันกับ สัตว์สุดพิศวง ในตัวแรกกันครับ Hawkesbury River Monster ซึ่งสถานที่ที่พบมันนั้นอยู่ที่ รัฐนิวเซาท์เวลส์ (New South Wales) ในประเทศออสเตรเลีย ที่ดินแดนทางใต้ อย่างที่ประเทศออสเตรเลียนี้

นับได้ว่าที่ตั้งของประเทศ ได้อยู่ในทวีปดึกดำบรรพ์ครับ ไม่แปลกใจเลยจริง ๆ ว่าจะเจอกับสัตว์ ที่ยังคงหลงเหลือ จากยุคของไดโนเสาร์ แล้วเจ้าตัวนี้คือ สัตว์ประหลาดในลุ่มแม่น้ำ Hawkesbury ที่ในครั้งหนึ่ง มีการรายงานของ

ผู้ที่พบเจอมันมากถึง 100 คน ซึ่งลักษณะตัวของมัน ก็จะคล้ายกับ พวกไดโนเสาร์ ที่มีส่วนหัวเหมือนงู มีลำตัวที่ยาวกว่า 35 ฟุต คนที่เห็นได้บอกว่า เห็นมันดำน้ำ ว่ายที่กลางทะเลสาบใหญ่ ในตอนที่พวกเค้านั่น

กำลังตกปลากันนั่นเอง มีคนได้บอกว่าตัวมัน พอดู ๆ แล้วจะไปคล้ายคลึงกับ Plesiosaur ที่เป็นไดโนเสาร์ ที่เรียกได้ว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว ประมาณกว่า 70 ล้านปี ตัวนั้นนั่นเองครับ

สัตว์แปลกตัวที่สองคือ Mongolian death worm สถานที่ที่ได้มีคนพบคือ ทะเลทรายโกบี ในมองโกเลียครับ ที่ในทะเลทราย ที่มีความแห้งแล้ง ได้มีนักล่าอย่าง หนอนยักษ์สีแดงเลือด ที่เป็น สัตว์ในตำนาน ของพวกคนมองโกเลียน

หนอนยักษ์ที่มีลำตัว ยาวประมาณ 2 – 5ฟุต แถมยังเป็นสัตว์กินเนื้อ มันคอยจะจ้องกินสัตว์อื่น เพื่อเป็นอาหาร โดนพวกมันจะใช้ วิธีการพ่นพิษ เข้าไปที่เหยื่อ บางคนบอกว่าพวกมัน บางตัวสามารถที่จะ ปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาด้วย

ที่จะเหมือนกับ พวกปลาไหลไฟฟ้านั่นเอง พวกมันจะขึ้นมา ในตอนที่มีฝนตกเท่านั้น คนที่เจอพวกมันนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นคนพื้นเมือง ในตอนปี ค.ศ. 2005 เคยมีการตั้ง คณะสำรวจศึกษา

เจ้าหนอนมรณะแห่งมองโกเลีย นี้แบบจริงจังเลย แต่ทว่าก็ไม่ได้เจอหลักฐาน ในการมีตัวตนของพวกมัน แต่ก็ไม่สามารถสรุปได้เช่นกัน ว่าพวกมันนั้น ไม่ได้มีอยู่จริง ในทะเลทรายโกบีนี้ครับ เพราะว่ายังมีคนพื้นเมือง ที่พบเห็นมันอยู่บ้างนั่นเอง

เรื่องแปลกพิศวง เรื่องราวสุดแปลกของสัตว์ลึกลับ

มาดูกันกับสัตว์แปลกตัวที่สาม Yeti สถานที่พบเห็นคือที่ แถบเทือกเขาหิมาลัย ของประเทศเนปาล และในธิเบตครับ ซึ่งเยติก็จะเป็น สัตว์ประหลาดที่มี ขนาดรูปร่างใหญ่ มีความสูงกว่า 2 เมตร รูปร่างของพวกมันนี้ จะดูแล้วกึ่งมนุษย์กึ่งลิง

แต่ว่าไม่มีหาง มีขนตามตัวที่เป็น สีน้ำตาลแดง ที่เห็นเป็นสีขาว เพราะขนมันถูกปกคลุม ไปด้วยหิมะคนับ ลักษณะนิสัยนั้น จะรักสงบ เยติได้อยู่ในความเชื่อ ของพวกชาวเชอร์ปานานแล้ว เพราะจะมีภาพเขียนผนัง

ที่อยู่ในวัดลามะ ที่มีอายุมากถึง 300 ปี เป็นรูปเยติ ยังมีสิ่งที่เชื่อว่า มันคือหนังศีรษะเยติ ที่ได้นำมาเก็บรักษา เอาไว้ที่วัดลามะ ที่ในคุมจุง ตอนที่ชาวตะวันตก ได้เข้ามาที่ในดินแดนนี้ ก็เกิดมีการล่า

รวมถึงได้ค้นคว้า เรื่องของสัตว์อย่างเยติ จนได้พบเจอหลักฐาน ในเรื่องของการมีตัวตน ของสัตว์อย่างเยติ อยู่มากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นรอยเท้า ขน และก็ มูล คนที่ได้พบเจอส่วนมาก คือพวกนักปีนเขาครับ

สัตว์ลึกลับตัวที่สี่คือ Bigfoot สถานที่พบเห็นคือที่ แถบอเมริกาเหนือ เป็นสัตว์ลึกลับ ที่ดูแล้วคล้ายคลึงกับ สัตว์อย่างเยติมาก ๆ เพราะว่ามีรูปร่าง ที่จะคล้ายกับมนุษย์ มีลำตัวที่ดูใหญ่ เจอกันครั้งแรกที่ ประเทศสหรัฐอเมริกา กับประเทศแคนาดา ทวีปอเมริกาเหนือ

เหตุการณ์ที่พบเจอครั้งแรก คือการมีคนกล่าวถึง ไอ้ตีนโต ในตอนปีค.ศ.1811 ที่เมืองจัสเปอร์ ของประเทศแคนาดานั่นเอง โดยได้เจอกับ รอยเท้าที่บนหิมะ ที่มีความยาว 14 นิ้ว มีความกว้าง 8นิ้ว คนที่เจอรอยเท้านี้คือ เดวิด ทอมป์สัน พบหลังจากในครั้งนั้น ได้มีคนที่พบเห็น กันแบบเห็นจัง ๆ อยู่หลายครั้งเลยครับ 

เรื่องราวการค้นพบสัตว์สุดแปลก ที่มีความลึกลับพิศวง

มาถึงสัตว์ลึกลับตัวที่ห้า Wendigo สถานที่ได้พบเห็นมันคือ แถบ Great Lakes region ของที่ประเทศอเมริกา กับประเทศแคนาดา เวนดิโกนั้นเป็นสัตว์ประหลาด ที่อยู่ในความเชื่อ ของคนพื้นเมืองหลายเผ่า ของทวีปอเมริกาเหนือ

พวกมันมีรูปร่าง ที่จะเหมือนกับ มนุษย์กึ่งสัตว์ป่า รูปร่างของมันนั้นผอมมาก บางแบบเห็นกระดูก กล่าวกันว่าพวกมันคือ ปีศาจร้ายในป่า ที่จะสิงผู้คน เพื่อที่จะกินเนื้อมนุษย์ เป็นอาหารนั่นเอง วิถีชาวอินเดียนแดง ในบางเผ่านั่นก็จะมี ลักษณะที่เหมือนกับเวนดิโก

แต่ก็มีเรื่องที่บอกว่า ในตำนานนี้อาจจะแต่งขึ้น ก็เพื่อไว้เตือนสติ กับพวกนักเดินป่า เพื่อให้คอยระวังภัย ของพวกเผ่ากินคน แต่ว่าตำนานเรื่องนี้ ได้มีนานมากแล้วครับ ก่อนที่พวกคนผิวขาว นั้นจะย้ายมาที่แผ่นดินอเมริกาอีก หลายคนเลยคิดว่า พวกมันอาจมีจริงก็เป็นได้

มาที่สัตว์ตัวสุดท้าย Kraken มีคนพบเจอที่ บริเวณแถวมหาสมุทรแอตแลนติก ครากเคนคือ สัตว์ยักษ์ในตำนาน ที่ทำให้ผู้คนหวาดกลัว ยิ่งเฉพาะกับนักเดินเรือ กับรูปร่างของมัน ที่คล้ายกับหมึกกล้วย มีลำตัวที่ยาวมาก ๆ ยาวยิ่งกว่าเสาของกระโดงเรือ

มีนิสัยที่ดุร้าย โดยธรรมชาติ ได้มีการบันทึก แบบลายลักษ์อักษร ในครั้งแรกที่ ประนอร์เวย์ กับหนังสือที่ชื่อ The Natural History of Norway ว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิต ที่มีขนาดใหญ่อย่างมาก ตัวของมันใหญ่พอ ๆ กับเกาะเล็ก ๆ เกาะหนึ่งเลยทีเดียว

ที่จะคอยจู่โจม เรือเดินสมุทร แบบที่เรานั้น ไม่ทันได้เตรียมใจเลยครับ และมันก็จะพยายามจมเรือ ได้ใช้เวล่แค่ไม่กี่นาที หมึกยักษ์ตัวนี้ อาจฟังแล้วเหลือเชื่อ ทว่ามันคือสัตว์ประหลาด ชนิดเดียวที่มูลความจริง มีอยู่มากสุดเลน

กับลิสต์สัตว์ประหลาดทั้งโลก เหล่านักชีววิทยา ได้ค้นคว้าว่ามีปลาหมึก ที่เป็นสายพันธุ์อาร์คิเทอูธิส ที่ใกล้เคียงที่สุด กับเรื่องหมึกปีศาจนี้ ที่มันมีความยาว 30-40เมตร น้ำหนักของมันนั้น 2-3 ตันเลยทีเดียว มีฟันที่แหลม

และยังคมมาก ศัตรูตามธรรมชาติของมันนั้น จะเป็นวาฬสเปิร์ม ที่ในบันทึกการเดินเรือ อยู่เยอะมาก ๆ ที่ได้เขียนเรื่องว่า ได้เห็นปลาหมึกยักษ์ กำลังสู้กับวาฬ บ่อยครั้งเอามาก ๆ เลยครับ

เรื่องราวแปลกๆ ในโลก

เรื่องแปลกลี้ลับ

ข่าวมวยวันนี้